วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ภาษาไทย กับ วัยรุ่น

ภาษาไทย กับ วัยรุ่น
           
            ปัญหาการใช้ภาษาของเยาวชนไทย นับวันยิ่งลุกลามจนเป็นปัญหาระดับชาติ ประกอบกับผลสำรวจที่พบว่าคนไทยกว่า 60 เปอร์เซ็น ท่องพยัญชนะไทยทั้งสี่สิบสี่ตัวไม่ได้ด้วยซ้ำ และด้วยวุฒิภาวะที่ไม่มากพอของเยาวชน จึงไม่เล็งเห็นถึงความสำคัญของภาษาไทย อันเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย แต่ถึงแม้จะเป็นปัญหาหนักหน่วง แต่ก็ไม่มีองค์กรใดเข้ามาแก้ไขจริงจังและเห็นผลชัดเจน เรื่องเก่าๆเหล่านี้จึงยังเป็นปมที่ไม่คลายออกโดยง่าย หากแต่ยังแน่นขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
         การใช้ภาษาไทย ถึงแม้จะเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทยมาตั้งแต่โบราณก็ตาม แต่ในเวลาต่อมา การใช้ภาษาไทยในการสื่อสารอย่างผิดๆของวันรุ่นไทย กลับไม่มีใครให้ความสนใจ หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว มองว่าไม่สำคัญด้วยซ้ำไป  แต่ในโลกของการสื่อสารในปัจจุบัน สิ่งนั้นมันเกิดขึ้นแล้ว มันเป็นเพียงจุดเล็กๆที่อาจก่อความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมากในสังคมไทย และหากว่าปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกวิธีและทันท่วงที ทุกอณูในสังคมของเยาวชนก็จะถูกแทรกซึมโดยโลกไซเบอร์ สังคมที่เรียกว่า สังคมการแชทกลายเป็นสังคมที่เข้มแข็ง มีการรวมตัว...และที่สำคัญ...กำลังจะมีภาษาเป็นของตัวเอง โดยการรุกล้ำวัฒนธรรมอันดีงามของภาษาไทยที่ถูกสร้างมาอย่างลงตัว
         ในขณะนี้  ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต สามารถจะเนรมิตให้คุณได้แทบทุกอย่าง นับตั้งแต่การจองตั๋วเครื่องบิน เช็ครอบหนัง ลงทะเบียนเรียน ค้นหาข้อมูลต่างๆ  ฟังวิทยุ หรือแม้กระทั่งการสั่งอาหารที่แสนจะสะดวกสบาย ซึ่งแน่นอนว่ารวมทั้งการให้คุณมีสังคมใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย  และแล้วในที่สุดสังคมในโลกแห่งการแชทก็เริ่มต้นขึ้น การที่ร่วมสนุก ร่วมแชท ร่วมลงชื่อเข้าไปใช้บ่อยๆ คุยกันหลายครั้งหลายคราว  คุ้นเคยกับชื่อคุ้นเคยกับนิคเนม (NICKNAME) ซึ่งก็คือชื่อที่ใช้ในการเล่นแชท แล้วยิ่งเข้าร่วมบ่อยๆ เข้าก็จะเกิดอาการที่เรียกกันว่า ติดการแชท   จากบทสนทนาประกอบกับการหาข้อมูลจากผู้ที่เรียกได้ว่าเป็นนักแชทหลายๆคน ก็ได้เหตุผลที่พวกเขาเหล่านั้นรู้สึกว่า การแชท ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของพวกเขา จนขาดไปไม่ได้เลย เป็นส่วนใหญ่ อาจกล่าวได้อีกนัยหนึ่งก็คือรู้สึกว่ามีสังคมใหม่เพิ่มมาอีกสังคมหนึ่ง  มีเพื่อนคุย เวลาเหงาๆ หรือเกิดอาการเครียดๆ ไม่สบายใจ ก็สามารถมาระบายใส่ในการแชท โดยที่คนที่คุยด้วยก็รู้จักเราเพียงแค่ชื่อเล่นที่อาจจะเป็นชื่อที่สมมติขึ้นมา เรียกได้ว่าคุยกันได้ทุกเรื่องโดยไม่ต้องอาย คุยกันได้อย่างเปิดเผย  คิดเพียงแค่ว่ายังไงก็ไม่เห็นหน้ากัน ไม่รู้จักตัวจริงกันอยู่แล้ว  แต่ข้อเสียของการเล่นแชทก็มีอยู่มากมาย อย่างที่เห็นเป็นข่าวกันประจำ นั่นก็คือการที่นัดเจอคนที่แชทด้วยกัน  แล้วก็เกิดเหตุทำร้ายร่างกายไปบ้างข่มขู่ชิงทรัพย์บ้าง จนกระทั่งลุกลามไปจนเกิดการก่อคดีฆาตกรรม แต่ในหัวข้อนี้ไม่ได้มาตีแผ่เรื่องอาชญากรรมในโลกไซเบอร์ แต่ที่น่าเป็นห่วงจนต้องนำมาเผยแพร่ คงจะหนีไม่พ้นเรื่องเก่าๆที่ยังคาราคาซังซ้ำซากจนต้องนำมาเล่าและทำความเข้าใจกันใหม่ ซึ่งก็คือเรื่องที่ว่าด้วย วัยรุ่นกับภาษาไทยที่ใช้ในการแชท
         อันที่จริงแล้ว ก็มีคนออกมาพูด ออกมาชี้ประเด็นกันหลายครั้งหลายคราว ทั้งอาจารย์ นักวิชาการ นักภาษาศาสตร์ แต่ก็ไม่มีผลการจัดการกันอย่างจริงจัง  การที่วัยรุ่นที่ใช้ภาษาแปลกๆ นำเอาความสะดวกในการพิมพ์เข้ามาใช้ในแชทนั้น ก็ยังใช้กันอยู่ และมีแนวโน้มจะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ  ซึ่งนอกจากจะใช้ภาษาไทยอย่างผิดๆ แล้ว หนักไปกว่านั้นยังมีการจดบัญญัติศัพท์ใหม่ในวงการแชทขึ้นมาใช้กันเองอีกด้วย    แต่ที่แสดงออกให้รู้สึกว่าหนักหนาสาหัสที่สุด  นั่นก็คือ ณ วินาทีนี้ ภาษาในการแชทได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ทั้งในชีวิตประจำวัน ทั้งภาษาพูดและภาษาเขียนไปแล้ว แต่ถ้าหากว่ายังมีข้อกังขาใดๆ อยากจะรบกวนท่านพ่อแม่ผู้ปกครองที่เคารพ  ให้ท่านลองไปนั่งฟังลูกหลานของท่านพูดคุยกับเพื่อนๆ  รับรองว่าท่านจะต้องได้ยินได้ยลกับคำศัพท์ คำพูดคำจา ที่แปลกประหลาด ที่เหมือนจะไม่ใช่ศัพท์ที่ถูกบัญญัติเป็นภาษาไทยโดยถูกต้องอย่างแน่นอน หรือจะกล่าวให้ชัดเจนก็คือ เป็นภาษาที่สะดวกแก่การพูดคุย และสะดวกแก่การพิมพ์ อย่างภาษาแชท ได้เข้าไปกลมกลืนอย่างลงตัวกับภาษาไทยที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวันของวัยรุ่นไปเสียแล้ว และที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งก็คือการแพร่หลายอย่างรวดเร็วของภาษาแชทในการใช้ภาษาเขียน ถ้าไม่มีการดำเนินการจัดการเสียก่อนแต่เนิ่นๆก่อนที่จะสายเกินไป ปัญหานี้อาจลุกลามไปจนส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมประเพณีก็อาจเป็นไปได้  เพราะการที่ชาติเรามีภาษาเป็นของตัวเอง ถือเป็นเอกราชและวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง
                 
                  ตัวอย่างภาษาในการแชท ที่ถูกบัญญัติขึ้นมาใหม่ในโลกไซเบอร์ ขึ้นมา
เช่น
          คำว่า      โกรธ - โกด                      เดี๋ยว - เด๋ว
                   แล้ว - แร้น                              ค่ะ - คร่ะ / ฆ่ะ / ขร่ะ / ฆร่ะ
                          ขา - ฆะ/ คระ / ขรา / ฆร๋า      ครับ - คับ / ฮับ / ฮัฟ / กั๊บ / ก๊าฟ                       ผม ป๋ม            หนู - นู๋
                    น่ะ - ง่ะ                                  โอเวอร์ - เว่อ
                    คิดถึง - คิดถุง                         กรี๊ด - การี๊ด
                   เหรอ - เหยอ / หรอ                  บ้า บร้า      เป็นต้น
         สำหรับคนที่ไม่เคยคุ้นที่จะเข้าไปในโลกของการแชท หากได้ลองเข้าไปก็อาจจะก่อเกิดอาการปวดหัว วิงเวียนศีรษะ เผลอๆ อาจจะนึกว่าตัวเองโผล่มาในสังคมของพวกต่างดาวที่มีภาษาเป็นของตัวเอง จะขอยกตัวอย่างบทสนทนาในการแชทขึ้นมาสักเล็กๆน้อยๆ
เช่น...    

                 เดคร้า.. บัยเดเหยอคระ คิดถุงเว่อๆ เลยน๊า
                     (แปล - ดีค่ะ บายดีเหรอคะ คิดถึงเวอร์ๆ เลยนะ)
              (แปลอย่างละเอียด สวัสดีค่ะ สบายดีเหรอคะ คิดถึงมากเลยนะ)
 บั๊บบัย  เด๋วต้องไปแร้นนร๊ะ เทอจะคิดถุงกังม่างอ๊ะเป่าง่ะ
(แปลบ๊ายบาย เดี๋ยวต้องไปแล้วนะ เธอจะคิดถึงกันบ้างรึเปล่าน่ะ)

 ดีคร่ะ ครัยคร๊า ว๊า ไม่ตอบ นู๋ปัยเดกั่ว
(แปล - ใครคะ ว๊า ไม่ตอบ หนูไปดีกว่า) 
 เป็นต้น
บัญญัติศัพท์ใหม่ขึ้นมา
         ยกตัวอย่าง  เช่นคำว่า...
แมว - อีเมล (E – Mail)
กิ๊ก - ชู้รัก
จร๊วบ จูบ  หอมแก้ม (จากการเลียนเสียง)
หุ หุ - หัวเราะ (จากการเลียนเสียง)
อิ๊ อิ๊ - หัวเราะ (จากการเลียนเสียง)
คริ คริ - หัวเราะ (จากการเลียนเสียง)
เหอ เหอ - หัวเราะ (จากการเลียนเสียง)
ฉึก ฉึก   (เลียนแบบโฆษณา)  

         ภาษาถูกบัญญัติขึ้นเพื่อความซับซ้อนโดยใช้ตัวย่อ
เช่น
         กทม.   แปลว่า  กระเทยแอ็บแมน
         คถ.      แปลว่า   คิดถึง
บ.                แปลว่า  บ้า
กท.     แปลว่า  กระเทย
ญท.    แปลว่า   หญิงแท้
ชท.     แปลว่า ชายแท้
                                      เป็นต้น
        
ประสบการณ์นักแชท

         จากประสบการณ์และเข้าไปพูดคุยในโปรแกรมแชทต่างๆ เป็นเวลานานหลายวัน ประกอบกับการหาข้อมูลเพิ่มตามเว็บไซค์ต่างๆ พบว่าผู้ที่พูดหรือใช้ภาษาที่อาจเรียกได้ว่าภาษาไทยที่วิบัติไปแล้วนั้น พฤติกรรมเช่นนี้ส่วนใหญ่มักจะพบในบุคคลที่มีอายุประมาณนับตั้งแต่ 14 ปีเป็นต้นไป และจากการอ่านบทสัมภาษณ์นักแชทผู้มีอายุนับตั้งแต่ 35 ปีเป็นต้นไป ซึ่งเป็นผู้ที่ใช้ภาษาเช่นนี้พบว่า ช่วงแรกๆที่เข้ามาร่วมคุยร่วมแชทในอินเตอร์เน็ตก็ยังใช้ภาษาไทยที่ปกติ ยังถูกต้องตามหลักไวทยากรณ์  แต่พอนานวันเข้าภาษาที่ใช้ในการแชทก็จะซึมซับเข้าไปเอง  จนพูดและสื่อสารด้วยความเคยชินในที่สุด
ยกตัวอย่างบุคคล เช่น
        
         คุณกายส์ สวิตท์  ลีละพงศ์วัฒนา นักศึกษาหนุ่มวัย 20 ปี  เขาเป็นนักแชทตัวยง เล่นแชทเกือบจะทุกวัน และยังให้การยอมรับว่า ตนเองเป็นบุคคลหนึ่งที่ใช้ภาษาแชทในการสนทนาผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า
         ผมเองก็เล่นแชทนะครับ ยอมรับว่าเล่นเยอะด้วย ชนิดแทบจะทุกวันเลยทีเดียว แถมยังเล่นมาหลายปีแล้ว แรกๆที่เริ่มเล่นก็ไม่ค่อยรู้จักศัพท์ที่ใช้ในตอนที่แชทหรอกครับ ไม่รู้จักแถมยังเกิดอาการงงไปเลยครับ  ต้องนั่งเล่นไปพลาง สะกดอยู่นานจนโดยแซวบ่อยๆครับ ว่าแก่แล้วบ้างล่ะ  ไม่ทันภาษาวัยรุ่นบ้างล่ะ  แต่ก็นะ คนมันเพิ่งเริ่มแชท ถึงขั้นใช้ไม่เป็นซะด้วยซ้ำ แต่พอเล่นไปนานๆวันเข้าได้เห็นบ่อยๆ ก็จะชินไปเองโดยอัตโนมัติ ยอมรับครับว่าผมไม่รู้ตัวเลย ว่าใช้ภาษาผิดๆออกมา คือคิดว่าสิ่งนั้นมันคือความเคยชินมากกว่านะครับ  แต่ก็มีปัญหาบ้างเหมือนกันครับ ในชีวิตประจำวันของผม เนื่องจากว่าต้องพิมพ์งานส่งอาจารย์บ่อยครั้ง ยังมีสรุปการประชุมที่เป็นทางการมากๆด้วย บางครั้งผมก็พิมพ์ภาษาที่ใช้ในแชทลงไป อย่างเช่นคำว่า ในผมก็จะพิมพ์ผิดไปจนกลายเป็น นัยหรือคำว่า สำเร็จ ก็จะเป็น สามเรส  แบบนี้ล่ะครับ  แล้วด้วยเหตุผลหนึ่งที่ว่าผมเป็นนักจัดรายการวิทยุมาก่อน เลยไม่รู้สึกแปลกใจกับภาษาที่เด็กๆใช้กันสักเท่าไร เพราะว่า เราเป็นดีเจที่จัดรายการโดยมุ่งเน้นที่วัยรุ่นเป็นหลักจึงไม่แปลกครับที่จะหลุดปากออกไปบ้าง  แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมค่อนข้างมั่นใจครับว่าจะต้องมีเด็กๆหลงลืมจนเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันเหมือนผมอย่างแน่นอนครับ เนื่องจากวุฒิภาวะยังมีไม่มากพอ เพราะขนาดวัยที่บรรลุนิติภาวะอย่างผมยังพลั้งเผลอได้ แต่อีกไม่นานก็คงจะเลิกใช้ไปเองล่ะครับ  เมื่อพวกเขาโตขึ้นคงจะคิดได้ว่าภาษาไทยที่ถูดต้องนั้นมันสำคัญแค่ไหน สำหรับตัวผมเองคงไม่เลิกเล่นแชท แต่ก็คิดว่าจะปรับการใช้ภาษาให้ถูกต้องและถูกหลักการใช้ภาษาไทยเมื่อโตขึ้นกว่านี้ แต่ตอนนี้ผมยังอยากสนุกอยู่ หรือถ้านึกในทางที่ทำประโยชน์ได้ นึกสนุกๆขึ้น เราน่าจะทำอภิธานศัพท์ในการแชทนะครับ เผื่อคนที่เข้ามาเล่นแล้วยังไม่คุ้นเคย จะได้เข้าใจง่ายๆและใช้กันอย่างถูกกาลเทศะ

         เมื่อจบบทสัมภาษณ์ของ คุณกายส์ ในการให้ความคิดเห็นเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับโลกของการออนไลน์แล้ว ซึ่งก็นับว่าต้องยอมรับในความคิดและในทุกมุมมองที่สื่อสารออกมา 
มุมมองอื่นๆ

         หากเราลองมองในมุมมองของนักอนุรักษ์ภาษา ก็คงอาจพูดได้ว่าภาษาไทยวิบัติจริงๆ แต่ถ้ามองในมุมมองของคนทั่วไปแล้ว อาจว่ามันเป็นพัฒนาการทางด้านภาษาก็เป็นได้ เนื่องจากในแต่ละช่วงเวลาก็จะมีศัพท์ใหม่ๆเกิดขึ้น  ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างสรรค์ทางภาษามากกว่า จะเป็นความวิบัติทางภาษา หรือมองเป็นเรื่องธรรมดา  อาจจะคิดว่า เอกราชทางภาษาคงไม่เสีย เพราะอย่างไรก็เป็นภาษาไทยของเรา แต่ถ้าเป็นไปได้ ทางที่ดีใช้กันให้ถูกต้องหลักตามภาษาจะเป็นการดี เพราะว่าจะไพเราะกว่า ภาษาไทยคงไม่ถูกกลืนอย่างแน่นอน และถ้าหากเราลองมองย้อนหลังไป  ภาษาไทยก็มีพัฒนาการ มาในแต่ละช่วงเวลา เช่น  สมัยก่อน ใช้สรรพนามแทนตัวเองและบุคคลรอบข้างก็ไม่หยาบคายนัก ปัจจุบันก็หยาบ หรือแม้กระทั่ง ศัพท์หลากหลายคำที่เกิดจากการเล่นสระ อย่างที่เราเคยเรียนมาสมัยมัธยมต้น  เช่นพวกคำสมาส การเล่นสระ หรืออื่นๆ ก็มีเกิดขึ้นมาในแต่ละช่วงแต่ละสมัย  ซึ่งถ้าจะมองว่าเป็นความวิบัติของภาษาในสมัยนั้นๆ ก็เป็นได้ แต่ในปัจจุบันเราก็ใช้จนเป็นเรื่องปกติ แม้กระทั่งในกระทรวงศึกษายังบรรจุไว้เป็นหลักสูตรการเรียนการสอนเลยด้วยซ้ำไป ในสมัยก่อน คำต่างๆอาจเริ่มเปลี่ยนไปเพราะว่าการแต่งกาพย์  ฉันท์  กลอน เพื่อให้ไพเราะ หรือ อาจเป็นเพราะว่า การขี้เกียจเลยทำให้เกิดย่นสระ เรียกได้ว่าง่ายเข้าไว้ แต่ว่าในปัจจุบันนั้น ภาษาเปลี่ยนไปจากหลายองค์ประกอบ เช่น สื่ออินเทอร์เน็ต ตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้วว่าในแต่ละช่วงแต่ละยุค ภาษาก็เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเอง แต่ว่าถ้าพูดให้ถูกหลักตามภาษา ก็เป็นข้อได้เปรียบของผู้พูดเอง ทั้งบุคลิกภาพ อย่างเช่น การสมัครงานในหลากหลายอาชีพ ภาษาก็นับว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ เช่น ผู้ประกาศข่าว เป็นต้น  ดังนั้นถ้าพูดให้ถูกแล้วได้ประโยชน์มากกว่าก็น่าจะพูดให้ถูกต้อง แต่ถ้าหากมองลงไปอีก ว่าอิทธิพลที่ทำให้ภาษาเปลี่ยนในยุคนี้ กลับมองว่าเป็นที่ ภาพยนตร์ ละคร หรือการตลาดของสินค้าบางอย่างส่งผลเยอะกว่าอินเทอร์เน็ตไม่น้อย เพราะว่าวัยรุ่นเป็นวัยของการเลียนแบบ แล้วส่วนใหญ่มักเลียนแบบบุคคลที่ชื่นชมอย่างดารานักร้องก็เป็นได้
         ถึงแม้ว่าจะมีผู้ใหญ่ที่เล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ แต่ก็ไม่ได้นำเสนอการดำเนินงานออกมาให้เราได้เห็นกันอย่างชัดเจนเท่าใดนัก จึงเกิดกระแสที่เรียกได้ว่า ความไม่มั่นคง ทางการดำเนินงานของทางผู้ใหญ่ แล้วการที่จะแก้ปัญหาทางการใช้ภาษาของวัยรุ่นนั้น หากจะแก้โดยครอบคลุม โดยที่ไม่อธิบายหรือแม้แต่เจาะจงให้พวกเขาตระหนักถึงผลเสียที่ตามมา มีหรือที่เยาวชนจะเข้าใจโดยทั่วถึงกัน ซึ่งก็เป็นที่แน่นอนว่า ปัญหาต่างๆเริ่มต้นจากจุดเล็กๆเพียงจุดเดียวเท่านั้น   และในขณะเดียวกัน ในมุมมองอีกแง่หนี่งก็กระทบมาจากการที่เยาวชนก็ไม่อ่านหนังสือ จึงทำให้เกิดจุดด้อย คือ คนไม่สามารถคิดคำศัพท์ใหม่ๆ ที่เป็นภาษาสละสลวยได้ ส่งผลให้เกิดภาษาสแลง คือการใช้ภาษาแบบแอ๊บแบ๊ว การใช้สำเนียงฝรั่งเข้ามาสื่อสารมากขึ้น จนกระทั่งภาษาไทย กลายเป็นภาษากลาย ซึ่งการใช้ภาษาแบบแชท เป็นผลพวงมาจากระบบการศึกษาที่ล้มเหลวเช่นกัน เมื่อเยาวชนใช้กันมากขึ้นจะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ไม่น้อย  เพราะจะพูดกันไม่รู้เรื่อง อย่างไรก็ตาม ภาครัฐควรแก้ที่ต้นเหตุ คือ การที่เด็กไม่อ่านหนังสือจะดีกว่า ถ้าแก้ได้ก็จะทำให้การใช้ภาษาไทยแบบผิดเพี้ยนไม่เกิดขึ้น ทั้งนี้การใช้ภาษาไทยแบบแอ๊บแบ๊วในการแชทท ในโลกไซเบอร์อาจไม่ใช่วิกฤติของภาษาซะทีเดียว  แต่การไม่อ่านหนังสืออาจเป็นเรื่องที่น่ากังวลยิ่งกว่าด้วยซ้ำไป 
            อย่างไรก็ตาม การรักษาภาษาไทยที่เป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมของไทยที่มีมาแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหง  นั้นเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน  โดยเฉพาะเยาวชนที่จะต้องช่วยกันและหันมาเอาจริงเอาจังกับการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง  ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าที่จะใช้ภาษาที่สลับแสลงและทำให้ภาษาที่มีมาแต่บรรพบุรุษของเราวิบัติไป   และในฐานะที่เราก็เป็นคนไทยจึงอยากเชิญชวนให้คนไทยทุกคนช่วยกันรณรงค์ให้ใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง ช่วยกันสืบต่อให้คนรุ่นหลังของเราได้ใช้ภาษาไทยต่อไป   การที่จะฝึกฝนหรือสอนให้เด็กๆพูด อ่าน หรือขียนภาษาไทยให้ถูกต้องนั้น คงจะง่ายขึ้นมากหากเราสามารถปลูกฝังให้พวกเขามีความรู้สึกหวงแหนภาษาไทย หวงแหนความเป็นไทย  ซึ่งเป็นมรดกของชาติ เพราะเรามีทั้งภาษาพูด และภาษาเขียนที่เป็นของเราเอง เพื่อที่วันข้างหน้าพวกเขาจะเติบโตขึ้นเป็นเยาวชนไทยที่สามารถใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง มีบุคลิกภาพที่ดี และสามารถอวดเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ



1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ31 มกราคม 2565 เวลา 04:23

    1xbet korean 2021 sportsbook review | korean
    1xbet korean 2021 sportsbook 1xbet korean review - betting with live streaming, casino games, 메리트 카지노 쿠폰 bonuses, choegocasino sports betting, bonuses, deposit and withdrawal policy.

    ตอบลบ